โรคผิวหนังในฤดูฝน: รู้ทันเพื่อการดูแลสุขภาพผิว
October 02 / 2024

โรคผิวหนังในฤดฝน

 

          ฤดูฝนเป็นช่วงเวลาที่มีความชื้นสูง ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพผิวหนังของเราอย่างมาก โรคผิวหนังหลายชนิดสามารถเกิดขึ้นได้ในช่วงฤดูฝน รวมถึงเชื้อราที่ผิวหนัง การระคายเคือง และอาการแพ้ต่างๆ เมื่อรู้ทันและมีวิธีการดูแลที่ถูกต้อง เราสามารถปกป้องผิวหนังของเราไม่ให้เกิดปัญหาได้ 

 

โรคผิวหนังที่พบบ่อยในฤดูฝน 

 

เชื้อราที่ผิวหนัง

     ความชื้นในอากาศทำให้เกิดการสะสมของเชื้อรา โดยเฉพาะในบริเวณที่มีความชื้นสูง เช่น ซอกขา ซอกแขน ทำให้เกิดอาการคัน ผื่นแดง และการอักเสบ

 

  • กลาก (Tinea): ถือเป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อราที่อยู่ในคน ในสัตว์ หรือในดิน  โดยจะมีลักษณะเป็นผื่น แดงขอบชัดเจนเป็นวง อาจคันหรือตึงร่วมด้วย โดยกลากสามารถเกิดได้หลายตำแหน่งในร่างกาย เช่น
    • เชื้อราที่เท้า: เป็นที่รู้จักกันในชื่อ "โรคเท้านักกีฬา" (Athlete's foot) โดยจะทำให้ผิวหนังบริเวณ เท้ามีอาการคัน แดง บวม และแตกแพร่กระจายได้ง่าย
    • เชื้อราที่ลำตัวและซอกพับ: รอยแดงหรือผื่นสามารถเกิดขึ้นที่ซอกขา ซอกพับขาหนีบ ซอกแขน หรือตามบริเวณที่มีความชื้น
  • เกลื้อน (Pityriasis Versicolor): โรคผิวหนังเชื้อราในชั้นต้น เกลื้อนอาจมาด้วยวงสีขาวหรือวงสีน้ำตาลอ่อน
  • วิธีป้องกัน ควรรักษาความสะอาดของร่างกาย รักษาผิวหนังให้แห้ง และหลีกเลี่ยงการใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดตัว รองเท้า เป็นต้น

 

เชื้อราที่เท้า: เป็นที่รู้จักกันในชื่อ "โรคเท้านักกีฬา" (Athlete's foot)

​​​​​

เชื้อราในผิวหนัง 

     เชื้อราในผิวหนังมักเกิดจากความชื้นและอุณหภูมิที่สูงขึ้นในฤดูฝน เชื้อราเป็นจุลินทรีย์ที่มีอยู่ ตามธรรมชาติในสิ่งแวดล้อมและบนผิวหนังปกติ แต่เมื่อมีปัจจัยที่ช่วยให้เชื้อราเจริญเติบโต เช่น สภาพอากาศที่ชื้น อาจทำให้เกิดโรคผิวหนังเชื้อราต่าง ๆ เช่น 

 

ผื่นผิวหนังอักเสบ  
     ผิวหนังอักเสบ เป็นภาวะที่ยังไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด แต่อาจเกิดจากการตอบสนองของร่างกายต่อสิ่งกระตุ้นบ้างอย่าง เช่น สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง โดยในฤดูฝนการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีสารเคมีแรง หรือการสัมผัสกับน้ำฝนที่มีมลพิษ อาจทำให้เกิดอาการอักเสบดังนี้

  • อาการ ผิวหนังมีอาการแดง คัน แห้ง หรือเกิดเป็นผื่น ในช้วงที่เป็นใหม่ๆ อาจมีน้ำเหลืองซึมออกจากบริเวณที่อักเสบ
  • ชนิดของผิวหนังอักเสบ เช่น ผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ (Atopic dermatitis) ซึ่งมักเกิดขึ้นในผู้ที่มีประวัติแพ้ง่าย หรือผิวหนังอักเสบจากการสัมผัสสารระคายเคือง (Contact dermatitis) 
  • การดูแลรักษา ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว และหลีกเลี่ยงการใช้สบู่หรือ ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีแรง ควรบำรุงผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์เป็นประจำ

 

ผื่นผิวหนังอักเสบ

 

 

การดูแลผิวหนังในฤดูฝน 

 

  1. ทำความสะอาดผิวหนัง ควรอาบน้ำและทำความสะอาดผิวหนังเป็นประจำ เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและลดความชื้นที่อาจเกิดการสะสม
  2. ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุง เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมที่ช่วยป้องกันและบำรุงผิว เช่น ครีมที่ให้ความชุ่มชื้นที่ไม่มีส่วนประกอบของน้ำหอมหรือสารกันเสีย 
  3. สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี เลือกใช้เสื้อผ้าที่ทำจากวัสดุธรรมชาติและระบายอากาศได้ดี เพื่อช่วยลดความชื้นที่ผิวหนัง
  4. หลีกเลี่ยงการสัมผัสตามที่มีเชื้อรา ถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการเดินเท้าเปล่า ในพื้นที่ที่มีน้ำขังหรือการเดินย้ำดินด้วยเท้าเปล่า
  5. พบแพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะด้าน หากมีอาการผิวหนังที่ผิดปกติ ควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม

 

          ฤดูฝนอาจนำมาซึ่งโรคผิวหนังต่างๆ แต่การดูแลสุขภาพผิวหนังอย่างถูกต้องสามารถช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงได้ การดูแลผิวหนังของคุณในช่วงฤดูฝนนี้จะทำให้คุณมีสุขภาพที่ดีและมีผิวหนังที่สวยงาม

 

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
 แผนกผิวหนัง ชั้น 1 โรงพยาบาลรามคำแหง 2
Email:
information@ram2-hosp.com
Line Official: @ram2
โทร: 02-032-3888

 


บทความโดย

 

Dr.Norramon Charoenpipatsin
พญ.นรมน เจริญพิพัฒน์สิน

สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา สาขาเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์
โรงพยาบาลรามคำแหง 2

 

นัดพบแพทย์ นัดหมายแพทย์ Book Appiontment
 

 


 

แพ็กเกจที่แนะนำ