การทดสอบภูมิแพ้ผิวหนัง (Allergy Skin Test)
September 30 / 2024

 

การทดสอบภูมิแพ้ผิวหนัง

 

          การทดสอบภูมิแพ้ผิวหนัง หรือ Allergy Skin Test เป็นกระบวนการที่สำคัญในการวินิจฉัยว่าเรามีปฏิกิริยาภูมิแพ้ต่อสารใดสารหนึ่งหรือไม่ การทดสอบนี้สามารถช่วยให้แพทย์ตรวจสอบสาเหตุของอาการภูมิแพ้ที่ผู้ป่วยประสบอยู่ เช่น อาการคัน ผื่นแดง หรืออาการหายใจลำบาก

 

อาการภูมิแพ้ที่พบบ่อย
 

        อาการภูมิแพ้ที่เกิดจากปฏิกิริยาต่อสารที่เราสัมผัสหรือสูดดม ประกอบด้วย: 

  • คันบริเวณผิวหนัง 
  • ผื่นแดง 
  • อาการที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด จมูกอักเสบ
  • อาการท้องเสีย

 

การทำการทดสอบภูมิแพ้ผิวหนัง


        การทดสอบภูมิแพ้ผิวหนังสามารถทำได้ในหลายวิธี อย่างไรก็ตามบทความนี้จะขอพูดถึง วิธีการสะกิด (Skin Prick Test): 

        การทดสอบแบบจุด หรือ Prick Test เป็นหนึ่งในวิธีการทดสอบภูมิแพ้ที่ได้รับการยอมรับและนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในการตรวจสอบว่าผู้ป่วยมีปฏิกิริยาภูมิแพ้ต่อสารต่างๆ เช่น เกสรดอกไม้ ฝุ่น แมลง หรืออาหาร บางชนิด 

 

การทดสอบภูมิแพ้ผิวหนัง

 

ขั้นตอนการทำการทดสอบ

 

  1. การเตรียมตัวผู้ป่วย: ก่อนทำการทดสอบ แพทย์จะสอบถามเกี่ยวกับประวัติอาการภูมิแพ้ของผู้ป่วย รวมถึงการใช้ยาในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน เช่น ยาต้านฮิสตามีน ที่อาจมีผลต่อการทดสอบ ในบางกรณี แพทย์อาจแนะนำให้หยุดใช้ยาบางตัวก่อนทำการทดสอบ
  2. การเลือกสารทดสอบ: แพทย์จะเลือกสารที่ต้องการทดสอบ โดยปกติจะมีสารหลายตัว เช่น สารก่อภูมิแพ้ทั่วไป (เช่น เกสรดอกไม้, ฝุ่น, สัตว์ เลี้ยง) หรือสารอาหารที่สงสัย
  3. การทำการทดสอบ:
    • การเจาะจะมีความลึกเพียงเล็กน้อย ไม่เจ็บเท่าการฉีดและใช้เวลา ไม่นาน 
    • แพทย์จะใช้เข็มเล็กๆ ทำการเจาะผิวหนังเล็กน้อยในจุดที่เตรียม ไว้ จากนั้นจะหยดสารที่เลือกลงไปบนบริเวณที่เจาะ 
    • ผู้ป่วยจะต้องนั่งอยู่ในที่สะดวกสบาย โดยจะมีการทำการทดสอบที่บริเวณผิวหนังของแขนหรือหลัง
  4. การเฝ้าสังเกตผล: หลังจากนั้น แพทย์จะเฝ้าสังเกตผิวหนังในช่วงเวลา 15-20 นาที เพื่อดูว่ามีปฏิกิริยาเกิดขึ้นหรือไม่ เช่น การบวม, คัน, หรือ ผื่นแดง ซึ่งเป็นสัญญาณบอกถึงการตอบสนองภูมิแพ้

 

การตีความผลทดสอบ

 

  • ผลบวก (Positive Result): คือการที่บริเวณที่ถูกทดสอบมีอาการบวมและแดงเกิดขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยมีปฏิกิริยาภูมิแพ้ต่อสารนั้น
  • ผลลบ (Negative Result): คือการที่บริเวณที่ถูกทดสอบไม่ได้แสดงอาการใดๆ ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้ป่วยไม่มีการตอบสนองภูมิแพ้ต่อสารที่ทดสอบ

 

การทดสอบภูมิแพ้ผิวหนัง

 

ข้อดีของการทดสอบแบบจุด (Skin Prick Test)

 

  • รวดเร็ว: การทดสอบใช้เวลาน้อย และสามารถได้ผลภายในระยะเวลาไม่นาน
  • ไม่มีการเจ็บปวดมาก: การเจาะผิวหนังด้วยเข็มเล็กไม่เจ็บมาก ทำให้เป็นวิธีที่สะดวกสำหรับผู้ป่วยทุกวัย 
  • ประสิทธิภาพสูง: สามารถตรวจสอบสารก่อภูมิแพ้ได้หลายตัวในคราวเดียว

 

ข้อควรระวัง

 

  • แม้ว่าการทดสอบแบบจุดจะมีความปลอดภัย แต่ก็อาจเกิดอาการแพ้ที่รุนแรงได้ในบางกรณี ควรมีแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญดูแลระหว่างการทำการทดสอบ
  • นอกจากนี้ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์เกี่ยวกับประวัติการแพ้ที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หรืออาการแพ้ที่เคยมี เพื่อความปลอดภัยในการทดสอบ

 

ความสำคัญของการทดสอบภูมิแพ้

 

       การทดสอบภูมิแพ้ช่วยให้แพทย์สามารถระบุสารที่เป็นสาเหตุของปฏิกิริยาได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถหลีกเลี่ยงสารเหล่านั้นในชีวิตประจำวัน และรักษาอาการภูมิแพ้ได้อย่างตรงจุด 

       การทดสอบภูมิแพ้ผิวหนังเป็นกระบวนการที่มีความสำคัญในการวินิจฉัยและรักษาอาการภูมิแพ้ ตั้งแต่การปรึกษาแพทย์ไปจนถึงการทำการทดสอบ ควรให้ความสำคัญกับการตรวจสอบอาการของตนเอง เพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีคุณภาพและปลอดภัยจากการสัมผัสสารที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
 แผนกผิวหนัง ชั้น 1 โรงพยาบาลรามคำแหง 2
Email:
information@ram2-hosp.com
Line Official: @ram2
โทร: 02-032-3888

 


บทความโดย

 

Dr.norramon Charoenpipatsin
พญ.นรมน เจริญพิพัฒน์สิน

สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา สาขาเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์
โรงพยาบาลรามคำแหง 2

 

นัดพบแพทย์ นัดหมายแพทย์ Book Appiontment
 


แพ็กเกจที่แนะนำ